Princess Medical Doctor องค์หญิงแพทย์ผู้เชียวชาญ - ตอนที่ 229.1
โม่ อวี้เอ้อร์ ไม่เต็มใจที่จะไป!
“ฝ่าบาท บิดาพ่อของหม่อมฉันเป็นถึงหมอเทวดาโม่ ที่มีชื่อเสียงในสี่แคว้น ถึงแม้ว่าหม่อมฉันจะไม่สนใจเรื่องของการแพทย์ แต่ก็เรียนรู้อยู่ไม่น้อย หม่อมฉันสามารถอยู่และคอยช่วยได้ หม่อมฉันขอให้ฝ่าบาทโปรดให้หม่อมฉันอยู่ต่อด้วยเพคะ”โม่ อวี้เอ้อร์ ยืนยันที่จะเข้าไป นางยังลดสายตาของนางลงเพื่อปกปิดความตั้งใจที่แท้จริงของนางเอาไว้
โม่ อวี้เอ้อร์ คิดว่านางได้ปกปิดความตั้งใจที่แท้จริงของนางเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่นางลืมไปว่าทุกคนต่างก็เป็นมนุษย์ ใครจะไม่รู้ว่านางมีความรู้สึกอย่างไรต่อเสี่ยวเทียนเหยา? โดยเฉพาะฮ่องเต้
เมื่อเห็นโม่ อวี้เอ้อร์ เดินไปทางด้านของเสี่ยวเทียนเหยา ฮ่องเต้ก็ได้คาดเดาสิ่งที่อยู่ในใจนางแล้ว ฮ่องเต้ช่วยไม่ได้ที่จะโกรธโม่ อวี้เอ้อร์ จริงๆที่กล้าขัดคำสั่งของเขา ก่อนจะส่งเสียงเย็นขึ้น
“เจ้าจะช่วยอะไรได้?” แม้ว่าเขาจะฟังคำแนะนำของนางและตามตัวหลิน ชูจิ่วเข้าวัง คำพูดของโม่ อวี้เอ้อร์และหมอเทวดาโม่ ก็ไม่เหมือนกัน
ดังนั้นเมื่อเทียบกับคำพูดระหว่างพ่อกับลูกสาวคู่นี้ เขาจึงเชื่อมั่นในคำพูดของหมอหลวงฉินมากกว่า
“หม่อมฉันโตมากับบิดาตั้งแต่วัยเด็ก ดวงตาและหูของหม่อมฉันจึงเต็มไปด้วยความรู้ทางการแพทย์ แม้ว่าหม่อมฉันจะได้เรียนรู้เพียงเล็กน้อย แต่หม่อมฉันก็สามารถระบุได้ว่ามีปัญหาหรือไม่ “โม่ อวี้เอ้อร์ ราวกับกำลังพูดว่าข้าต้องการที่จะอยู่และเฝ้าดูหลิน ชูจิ่ว
ในขณะนี้หลิน ชูจิ่ว ต้องทนกับแผนการร้ายครั้งนี้หรือ
โม่ อวี้เอ้อร์ ยังคงคิดว่าตัวเองเป็นบุตรสาวของหมอเทวดาโม่ ที่มีชื่อเสียงอีกหรือ?
ผิด ตอนนี้นางเป็นเพียงอวี้เหม่ยเหริน ในวังหลังของฮ่องเต้เท่านั้น แล้วนางจะใช้อะไรมาต่อรองกับเธอ
“อวี้เหม่ยเหรินช่างมีคำพูดที่ยิ่งใหญ่ ข้าหวางเฟยได้รับคำสั่งให้มาทำการรักษาองค์ชายสาม แต่แล้วเจ้าเล่า? เจ้ามีคุณสมบัติอะไรที่จะอยู่ที่นี่ได้”หลิน ชูจิ่วพูดขึ้น น้ำเสียงของเธอไม่อบอุ่นหรือเย็นชา แต่ทุกคนก็รู้สึกว่าเธอกำลังโกรธ
“ข้าเพียงแค่อยากจะทำให้ดีที่สุดเพื่อองค์ชายสาม” โม่ อวี้เอ้อร์เปิดปากของนางและทำให้ตัวเองดูสูงขึ้นไปอีกด้วยศีลธรรมต่างๆ เพื่อปกปิดพฤติกรรมของนาง แต่สิ่งที่นางไม่รู้ก็คือนางทำให้พระสนมโจวโกรธมาก
“อวี้เหม่ยเหริน เจ้าคิดว่าความสัมพันธ์ของเจ้ากับบุตรชายของข้าเป็นอย่างไร เจ้าถึงต้องการที่จะอุทิศหัวใจของเจ้าเพื่อเขา? ถ้าเจ้ามีหัวใจที่จริงใจทำไมเจ้าไม่บอกกับบิดาของเจ้าว่าเขาไม่ควรออกจากวังโดยไม่ทิ้งคำพูดใดๆ เอาไว้? และถ้ามันไม่ใช่เพราะบิดาของเจ้า บุตรชายของข้าจะจบลงในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร? “พระสนมโจวสามารถทนต่อการเห็นบุตรชายของนางถูกใช้เป็นหินขว้างไปมาครั้งหรือสองครั้งได้ แต่ทำไมนางควรจะทนกับการให้โม่ อวี้เอ้อร์ ใช้บุตรชายของนางได้? นางเป็นใครกัน?
ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ทุกหนทุกแห่ง ต้องการที่จะเหยียบย่ำลงไปที่บุตรชายของนางนะหรือ? นางต้องฝันไปแน่ๆ!
ใบหน้าของโม่ อวี้เอ้อร์ ซีดลง “พระสนมโจว หม่อมฉันทำมันด้วยความจริงใจ การกระทำที่ฉับพลันของท่านพ่อคือเหตุสุดวิสัย แต่ในช่วงที่ผ่านมาเขาได้ทำการรักษาต่อองค์ชายสามอย่างสุดกำลัง”
“บุตรชายของข้าป่วยหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จากการรักษาอย่างเต็มกำลังของบิดาเจ้า! บุตรชายของข้าอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงสองสามชั่วยามต่อจากนี้ด้วยซ้ำ? “พระสนมโจวโต้ตอบกลับคำของโม่ อวี้เอ้อร์อย่างเฉียบคม โม่ อวี้เอ้อร์ ไม่ได้พูดอะไร แต่ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยการแสดงออกของความชอบธรรม ดังนั้นใครจะไม่โกรธ?
“พอได้แล้ว”ฮ่องเต้ขัดจังหวะและพูดกับพระสนมโจวขึ้น “อวี้เหม่ยเหริน มีเจตนาดี เช่นนั้นก็ปล่อยนาง… … ” ฮ่องเต้ยังพูดไม่จบ แต่เสี่ยวเทียนเหยาก็ ขัดจังหวะเขาขึ้น”ฝ่าบาท ถ้าผู้หญิงของท่านมีความสามารถเพียงพอ เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางเป็นหมอ เปิ่นหวางและหวางเฟยจะไม่ชะลอการรักษาขององค์ชายสามอีกต่อไป”
ทันทีที่คำพูดของเขาตกลง เสี่ยวเทียนเหยาก็ ดึงหลิน ชูจิ่วออกไป แต่พระสนมโจว ทำปฏิกิริยาได้อย่างรวดเร็วและดึงมือของหลิน ชูจิ่วเอาไว้ก่อนจะพูดขึ้น “เสี่ยวหวางเย่ เสี่ยวหวางเฟย โปรดอย่าเพิ่งไป ข้าขอร้องโปรดช่วยบุตรชายของข้าด้วย ” พระสนมโจวหันศีรษะและมองไปที่ฮ่องเต้พร้อมด้วยน้ำตา ก่อนจะพูดขึ้น “ฝ่าบาท ถ้าอวี้เหม่ยเหริน มีทักษะในการที่จะช่วยจริงๆนางก็คงจะไม่อยากแนะนำเสี่ยวหวางเฟยต่อฝ่าบาท ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการช่วยชีวิตของจื่ออันนะเพคะ” ชีวิตของบุตรชายของนางกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่พวกเขาก็ยังกล้าที่จะดึงดันกันอยู่ได้?
คำพูดของพระสนมโจวไม่ต้องสงสัยว่ามันทำให้ฮ่องเต้ถึงกับพูดไม่ออกแต่น่าเสียดายที่เสี่ยวเทียนเหยา ยังคงพูดเพิ่มเติมขึ้นอีก “ฝ่าบาท เปิ่นหวาง เกลียดที่จะเห็นผู้หญิงที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียง นอกจากนี้อวี้เหม่ยเหรินก็ยังเป็นนางสนมของท่าน นางไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นี่ “