Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ - ตอนที่ 1028
ภาพที่อยู่ตรงหน้าเปลี่ยนจากบนท้องฟ้าลงมาอยู่บนพื้นดิน ฉากอันน่าตกตะลึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว
พูดอีกอย่างคือสิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้านั้นดูเหมือนจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่มีผู้คนเดินไปเดินมา หรือว่าในพระราชวังที่ดูหรูหรา ภาพจำนวนมากถาโถมเข้ามาในดวงวิคเตอร์จนเขามองไม่ทัน ถ้าไม่เป็นเพราะกลัวว่าจะทำให้คนอื่นเกิดความเสียหาย เขาคงจะลุกขึ้นไปลูบคลำบัลลังก์ของราชาแล้ว
เสียงอุทานภายในโรงหนังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ชมเหมือนจะสูญเสียความสามารถในการพูดไป พวกเขาทำได้เพียงใช้เสียงอุทานสั้นๆ มาแสดงความตกตะลึงที่อยู่ภายในใจ
ภายว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ล้วนแต่ทำให้เกิดเสียงขึ้นมาได้
เจ้าหญิงองค์โตปรากฏตัว “โอ้!”
แปลงร่างเป็นหมาป่าตอนอายุ 14 “ว้าว!”
เจ้าชายต่างแดนปรากฏตัว “โอ้วววว!”
ฉากที่เจ้าหญิงไม่อาจควบคุมพลังของตัวเองได้จนทำลายพระราชวังเสียหายย่อยยับ ทุกคนต่างส่งเสียงร้องตกใจขึ้นมาไม่หยุด เสียงตะโกนของพวกเขาเหมือนจะฉีกหลังคาจนพังลงมา!
นี่แตกต่างไปจากการดูละครเวทีแบบปกติที่ต้องดูด้วยความสงบเรียบร้อยโดยสิ้นเชิง เสียงร้องที่ดังขึ้นมาในโรงหนังเวทมนตร์นั้นดังขึ้นตั้งแต่เริ่มโดยไม่หยุดเลย
วิคเตอร์รู้ว่านี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องมารยาทของผู้ชม หากแต่มันเป็นการระบายความรู้สึกขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในใจเท่านั้น พวกเขาอยากจะดูภาพอันน่ามหัศจรรย์ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่อีกใจหนึ่งพวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวกับความสมจริงของพวกมัน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงทำได้เพียงตะโกนออกมา มีแต่วิธีนี้เท่านั้น พวกเขาถึงจะรู้ว่าไม่ได้มีแค่ตัวเองเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในดินแดนแห่งความฝันนี้ หากแต่รอบๆ ตัวยังมีคนอยู่เป็นเพื่อนอีกจำนวนมาก หรือพูดอีกอย่างก็คือพวกเขากำลังแบ่งปันความตกตะลึงนี้ด้วยกัน!
ถ้าโรแลนด์อยู่ตรงนี้ด้วยล่ะก็ เขาจะต้องรู้แน่นอนว่านี่เป็นแค่เพียง ‘บูลเลท สกรีน’ ในอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น
ท่ามกลางเสียงตะโกน เจ้าหญิงองค์โตได้แปลงเป็นหมาป่าตัวยักษ์แล้วกระโดดออกไปยืนบนพื้นหิมะ ในตอนที่ร่างกายอันใหญ่โตของเธอเลยสูงเหนือศีรษะเขาขึ้นไป วิคเตอร์รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาจนแทบอยากจะวิ่งหนีออกไป
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง บทเพลงเพลงหนึ่งก็ดังเข้ามาในหูเขา และทำให้เขาสงบลงทันที
อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่สบายใจทั้งหมดพลอยหายไปด้วย สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ความเจ็บใจ ความหลุดพ้น ความมุ่งมั่นที่เข้ามาแทนที่จนวิคเตอร์น้ำตาไหลออกมาทันที!
เขาเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของเจ้าหญิงองค์โตที่ถูกบีบคั้นให้หนีออกมา ความรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกทุกคนเข้าใจผิด และความรู้สึกภาคภูมิใจในความกล้าของเธอ
บทเพลงอันไพเราะงดงามและฉากที่เปลี่ยนไปได้ อีกทั้งทุกๆ การเคลื่อนไหวของตัวละคผลัดกันสะท้อนออกมา เสียงร้องอันงดงามทำให้เขารู้สึกเลือดลมพุ่งพล่าน คำบรรยายที่อยู่ในเนื้อเพลงก็เหมือนเขาเป็นคนเขียนขึ้นมา
ในชีวิตนี้มีใครที่ไม่เคยถูกเข้าใจผิดบ้าง?
แต่คนส่วนใหญ่กลับทำได้เพียงยอมรับมันอย่างเงียบๆ!
ความรู้สึกหวาดกลัวที่มีต่อหมาป่าของวิคเตอร์หายไปจนหมด สิ่งที่เข้าใจแทนที่คือความรู้สึกยินดีที่เธอปลดปล่อยตัวเองออกมาได้
เขาเหมือนจะมองเห็นตัวเองที่จากบ้านมาไกลได้จากตัวอีกฝ่าย
นี่คือบทเพลงที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งบทเพลงและตัวละครสอดประสานกันได้อย่างลงตัว เขาเพิ่งจะได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรก
จากเสียงปรบมือที่ดังขึ้นมาทำให้เขารู้ว่าไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นที่รู้สึกตื้นตันใจกับละครเรื่องนี้ บรรยากาศภายในโรงละครพุ่งขึ้นไปจนถึงขีดสุด
พริบตานั้นเองวิคเตอร์พลันมีความเห็นสำหรับละครเรื่องใหม่นี้ขึ้นมาในใจ
ที่ฝ่าบาททรงประกาศเอาไว้นั้นไม่ใช่การคุยโวเลย
นี่คือศิลปะที่ก้าวข้ามยุคสมัยจริงๆ!
……
แพ้แล้ว
ในตอนที่เสียงเพลงดังขึ้นมา เคแกนก็รู้แล้วว่าตัวเองพ่ายแพ้ให้กับเมย์ ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของเขา หากแต่เป็นละครเรื่องใหม่ของเขาที่พ่ายแพ้ให้กับ ‘หัวใจแห่งหมาป่า’ อย่างราบคาบ
ไม่ว่าจะพูดให้ดีแค่ไหน สุดท้ายละครก็เอาไว้ให้คนดู
ตอนแรกเขายังรู้สึกตกใจพร้อมกับคิดในใจว่า ‘นี่มันเป็นไปได้ยังไง’ ‘นางทำแบบนี้ได้ยังไง’ แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รู้สึกชาไปทั้งตัว หนังเวทมนตร์ที่ว่านี้ได้ทำลายความรู้ที่เขาสะสมมาเป็นเวลาหลายสิบปีลงจนหมด อีกทั้งยังกระทืบกฎเกณฑ์ที่มีในตอนนี้จนจมดิน
แขกที่อยู่ในนี้ล้วนแต่เป็นคนระดับสุดยอด ถึงแม้ในเรื่องการดูละครพวกเขาอาจจะสู้พวกขุนนางที่ดูละครมาอย่างยาวนานไม่ได้ แต่พวกเขาก็ถือว่าเป็นคนที่มีความรู้กว้างขวาง การจะทำให้พวกเขารู้สึกตกตะลึงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในเวลานี้คนเหล่านี้กลับส่งเสียงตะโกนออกมาไม่หยุด คล้ายกับเป็นพวกชาวนาที่ไม่เคยเห็นโลกภายนอกมาก่อน
แต่นี่จะไปโทษพวกเขาก็ไม่ได้
ถ้าไม่เป็นเพราะพยายามควบคุมอารมณ์เอาไว้ เขาเองก็เกือบจะตะโกนออกมาเหมือนกัน
ซึ่งละครเรื่องใหม่ที่คณะละครเคแกนจะแสดงนั้นทำแบบนี้ไม่ได้แน่นอน
ถ้าเอาทั้งสองเรื่องมาวางคู่กัน ไม่ว่าใครก็ต้องเห็นด้วยว่า ‘หัวใจแห่งหมาป่า’ นั้นยอดเยี่ยม แถมยังยอดเยี่ยมกว่าอย่างมากด้วย!
หรือว่าพวกเขามองไม่เห็นความผิดพลาดของนักแสดง?
ไม่ใช่แน่นอน
แต่พวกเขามองข้ามปัญหาเหล่านี้ไปจนหมด
เพราะเคแกนรู้ว่าข้อมูลที่คนเราสามารถรับรู้ได้ในเวลาเดียวกันนั้นมีจำกัด ซึ่งหนังเวทมนตร์นั้นสามารถมอบข้อมูลจำนวนมากให้กับเหล่าผู้ชม มากจนถึงขนาดที่ว่าเก็บข้อมูลทั้งหมดไม่ทัน ในสถานการณ์แบบนี้ ถึงแม้จะทำผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็ยากที่จะมีใครมานั่งสนใจ
อย่างนั้นนี่เป็นการต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรมหรือเปล่า?
เคแกนย่อมไม่คิดเช่นนี้
ไม่มีใครรู้ถึงการพัฒนาของละครเวทีได้ดีกว่าเขาแล้ว
ทำไมนักแสดงคนหนึ่งถึงอยากจะไปอยู่กับโรงละครขนาดใหญ่ นั้นก็เป็นเพราะว่าโรงละครเหล่านั้นมีศักยภาพทางการเงินที่มากพอที่จะมีเสื้อผ้า อุปกรณ์และฉากหลังดีๆ ให้กับนักแสดง
สิ่งของเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ละครที่ยอดเยี่ยมไม่อาจขาดได้เช่นเดียวกัน
อาจารย์ของเขามีชื่อเสียงอย่างมากจากการขนเอาฉากหลังขนาดใหญ่ขึ้นมาอยู่บนเวที ซึ่งชื่อเสียงของอาจารย์เขาได้พุ่งขึ้นไปถึงขีดสุดหลังจากที่ประดิษฐ์บ้านไม้ที่ถอดประกอบได้ขึ้นมา นับแต่นั้นมา คณะละครอื่นๆ ต่างก็พากันเลียนแบบเขาจนทำให้มีละครเวทีเหมือนอย่างเช่นทุกวันนี้ ถ้าจะให้นักแสดงขึ้นไปแสดงมือเปล่า เขาย่อมไม่คิดว่านั้นเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมแน่นอน
ฉากหลังนั้นมีการพัฒนาให้มีความละเอียดและเหมือนจริงขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งคณะละครสตาร์ฟลาวเวอร์ก็ทำจุดนี้ก็มาได้ยอดเยี่ยมที่สุด
เคแกนที่ได้ข้อสรุปออกมาเช่นนี้กลับรู้สึกผ่อนคลายลง
เขาพิงตัวลงไปบนเก้าอี้พร้อมกับถอนหายใจออกมา
ในที่สุดเขาก็ตั้งใจดูละครที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้ซักที
…….
กว่าจะรู้ตัวอีกที เรื่องราวก็เดินทางมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว
ความมืดถอยหายไป เก้าอี้ เสาหินและพื้นทางเดินปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคนอีกครั้ง
แต่ไม่มีใครลุกออกจากเก้าอี้ ทุกคนเหมือนยังจมอยู่ในเมืองแห่งขุนเขานั้นและนึกถึงการต่อสู้อันน่าตกตะลึงระหว่างเจ้าหญิงองค์โตและราชาปีศาจ
เคแกน เฟสปรบมือขึ้นมาเป็นคนแรก
เสียงปรบมือนี้เหมือนเป็นการปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมา จากนั้นก็มีคนที่สอง คนที่สาม…คนจำนวนต่างชูสองมือขึ้นมาปรบมือ เสียงปรบมือดังกระหึ่มขึ้นมาเหมือนเสียงฝน
“อาจารย์….”
เรินต์เกน อีเกรโปและคนอื่นๆ มองไปทางเคแกนที่ปรบมืออยู่ พวกเขาดูเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมา ส่วนเบอร์นิสนั้นน้ำตานองหน้าไปแล้ว
“อย่าร้อง” ชายแก่เองก็รู้สึกน้ำตาเหมือนจะรื้นขึ้นมา เขาย่อมต้องรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังเสียใจเรื่องอะไร เพื่อละครเรื่องใหม่แล้ว นักแสดงเหล่านี้ต่างพยายามฝึกซ้อมอย่างหนักมาสองปีกว่า แต่ตอนนี้ความพยายามเหล่านั้นกลับสูญเปล่าไปจนหมด คนที่ได้ดูหนังเวทมนตร์แล้วไม่มีทางที่จะอยากมาดูละครเวทีใหม่ของพวกเขาแน่ ความพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่งแบบนี้นั้นทำลายความมั่นใจของทุกคนลง แต่เขารู้ว่าตัวเองจะมาล้มลงตรงนี้ไม่ได้เด็ดขาด “พวกเราไม่ได้เดินผิดทาง!”
“อาจารย์ ท่านหมายความว่า…”
“สิ่งที่ทำให้คนรู้สึกเสียดายมากที่สุดในการแสดงละครคืออะไร? มันคือระยะห่าง!” เขาควบคุมเสียงที่สั่นขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองแล้วพูดว่า “ระยะห่างจากที่นั่งของผู้ชมจนมาถึงเวทีนั้นทำให้ผู้ชมพลาดรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของสีหน้านักแสดงไป แต่หนังเวทมนตร์กลับชดเชยในจุดนี้ได้ ข้ากล้าพนันเลยว่าการพัฒนาทักษะการแสดงจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีต่อไปเพียงแค่รอยยิ้มเล็กน้อยที่ทำได้อย่างพอดิบพอดีก็อาจจะทำให้ผู้ชมถึงกับลืมหายใจได้ ดังนั้นนี่เป็นเพียงความพ่ายแพ้ชั่วคราวเท่านั้น มันไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่พวกเจ้าทำมามันไร้ประโยชน์!”
เคแกนชะงักไปเล็กน้อย “วางใจได้ ข้ารับประกันกับพวกเจ้าได้เลยว่าเมื่อไรก็ตามที่ข้าเข้าใจหลักการของหนังเวทมนตร์แล้ว พวกเราจะกลับมาอีกครั้ง แล้วก็ยืนอยู่บนเส้นทางแข่งขันเดียวกับคณะละครสตาร์ฟลาวเวอร์ ข้าคิดว่าตอนนั้นผู้ชมจะต้องให้คำตอบที่ชัดเจนได้แน่นอน แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งร้องไห้ ยืดอกขึ้นมา มันคู่ควรแก่การที่เราจะปรบมือให้”
ท่ามกลางเสียงปรบมือที่ยาวนานนี้ ชื่อเสียงของ ‘หัวใจแห่งหมาป่า’ ก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งเมืองเนเวอร์วินเทอร์