The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 407
ครึ่งวันผ่านไป ซือหยูเปิดแผนที่ด้วยใบหน้าสิ้นหวัง
“ครึ่งวันแล้ว ข้าหาเจอแค่ห้าลูกที่ไม่สมบูรณ์!”
แม้เขาจะใช้เนตรวิญญาณมันก็ยากอย่างมาก ความท้าทายนั้นเกินกว่าความคาดหมายของซือหยู ตามคำร่ำลือ เขาต้องใช้ผลทั้งร้อยลูก การกินผลร้อยลูกต่อเนื่องกันจะทำให้เขาได้เป็นผู้คุมสวรรค์
ดูจากสถานการณ์ ดูเหมือนว่าข่าวลือนั้นจะไม่เป็นความจริง ถ้าการหาผลก้นบึ้งมังกรมันยากอยู่แล้ว แล้วเรื่องอื่นเล่า? ถ้าใครกลับมาได้พร้อมกับผลก้นบึ้งมังกรก็นับว่าโชคดีแล้ว
จะต้องมีความลับอื่นในการเป็นผู้คุมสวรรค์ แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีใครที่เขาหวังพึ่งได้ เขาขาดข้อมูลสำคัญไป
ซือหยูเปิดแผนที่และครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเขาก็มองไปทางตะวันตก
“ข้าผ่านพื้นที่ตรงตะวันออกไปมากแล้ว ข้าเหลือแค่พื้นที่ใกล้ก้นบึ้งหวงห้าม”
แม้พื้นขี่ใกล้ก้นบึ้งหวงห้ามจะอันตรายแต่เขาในตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะอย่างไรเขาก็มีเวลาเพียงสามวันในการหาผลก้นบึ้งมังกรและกลับขึ้นไป
ซือหยูทำใจเตรียมจะออกเดินทาง แต่เขาก็พบคลื่นทมิฬอยู่ไม่ไกลนัก
“เอ๋?”
ซือหยูเดินทางด้วยความเร็วอัสนีไปถึงบ่อน้ำที่กว้างร้อยศอก คลื่นดำนั้นสงบนิ่ง
ซือหยูยืนอยู่ที่ข้างบ่อน้ำและลูบคาง
“ก้นบึ้งมังกรถูกผนึกมาหลายปี ที่นี่ไร้ฝน แล้วที่นี่จะมีน้ำได้อย่างไร?”
ซือหยูใช้เนตรวิญญาณตรวจสอบก้นบ่อ แม้น้ำจะเป็นสีดำ มันก็ใสอย่างมากโดยไม่มีสิ่งเจือปนแม้แต่น้อย
ฟึ่บ–
หลังจากมองผ่านไปยี่สิบศอก พลังจิตวิญญาณของซือหยูก็สะท้อนกลับมาหาเขา! ซือหยูถอยกลับไปตั้งตัวโดยไม่ลังเล เขาตกใจ
“บ่อน้ำนี่มันอะไรกัน?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เนตรวิญญาณของเขาถูกสะท้อนกลับมา แต่ในตอนนี้แววตาเคร่งเครียดก็มีความยินดี เขาพบต้นไม้สูงเท่าเอวเติบโตอยู่ที่ข้างบ่อน้ำทมิฬ มันมีผลไม้สีดำสนิทอยู่บนต้น
“ผลแบบสมบูรณ์!”
ซือหยูตกใจ
แต่เมื่อเขาสำรวจรอบๆเขาก็ยิ่งเครียดเครียดกว่าเดิม
“บ่อน้ำนี่ประหลาดนัก!”
เหล่าผลก้นบึ้งมังกรในซากศิลานั้นเก้าในสิบส่วนล้วนถูกกัดกินไป จะเจอผลที่สมบูรณ์อยู่ในที่ลับเท่านั้น
แต่ผลก้นบึ้งมังกรที่นี่เติบโตอย่างเปิดโล่ง มันจะไม่ถูกพบเจอได้อย่างไร? บ่อทมิฬนี้จะต้องมีบางอย่างที่ทำให้เหล่าสิ่งมีชีวิตหวาดกลัว ซือหยูถอยกลับไปไกลยิ่งกว่าเดิม
ซือหยูจ้องมองผลก้นบึ้งมังกรและคิดหาทางเลือก ถ้าตาเขาไม่บอดเขาก็คงใช้วิชายักย้ายเอาผลก้นบึ้งมังกรออกมาอย่างง่ายดาย แต่ในตอนนี้…
ซือหยูปล่อยพลังวิญญาณออกมาจากร่างและสร้างร่างเทียมออกมา เขาต้องหวังพึ่งร่างนี้เท่านั้น
ร่างเทียมเริ่มเรียนวิชาเพลิงมาแล้ว แม้วิชาเพลิงระดับตำนานนั้นจะมีข้อความเพียงไม่กี่คำ หลังจากบ่มเพาะไปแล้ว ร่างเทียมของเขาก็มีพลังความร้อนในกาย ร่างเทียมนั้นสีแดงระเรื่อ
ร่างเทียมย่อตัวคลานกับพื้นโดยใช้พลังแขนและเอวคลานไปยังผลก้นบึ้งมังกรราวกับพยัคฆ์ที่กำลังล่าเหยื่อ
แม้ระยะจะห่างเพียงแค่พันศอก ร่างเทียมก็คลานไปถึงในไม่นาน! ร่างเทียมถือพลั่วหยกด้วยมืดหนึ่งข้างและจ้องมองบ่อน้ำทมิฬ จากนั้นก็ใช้มือขวาเริ่มขุด ต้นและผลถูกขุดออกมา
จากนั้นร่างเทียมก็โยนทั้งต้นพร้อมกับพลั่วออกมา ซือหยูเตรียมการไว้แล้ว เขาหยิบกล่องหยกกล่องใหญ่และกระโดดขึ้นไปคว้าทุกอย่างลงกล่องอย่างแม่นยำ
ซือหยูไม่มีเวลาให้เหลียวมอง เขาถือกล่องหยกด้วยมือหนึ่งข้างส่วนอีกข้างถือพลั่ว เขาสยายปีกและรีบหนีออกไปไกลในทันที!
ซ่า—
ในตอนที่เขาหนีไปก็มีคลื่นทมิฬสูงหลายหมื่นศอกพุ่งออกมาจากบ่อน้ำข้างหลัง! ร่างเทียมของซือหยูหายไปในพริบตาอย่างไร้ร่องรอย
ในจุดที่เขายืนอยู่เมื่อสักครู่ถูกเงาดำซัดผ่าน ความเร็วของมันเหนือจินตนาการ! ซือหยูปวดหัวและรับรู้ได้ว่าร่างเทียมถูกสังหารไปแล้ว!
โฮก—
เสียงคำรามดังตามมาจากส่วนลึกของบ่อน้ำ ซือหยูได้ทำให้สัตว์ยักษ์โกรธเข้าแล้ว
ซือหยูตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงคำราม พลังวิญญาณในตัวเขาหยุดนิ่ง สายโลหิตติดขัด เขาเสียพลังจากปีกและตกจากฟ้า
เขาอยู่สูงพันศอกบนนภา ถ้าเขาตกลงไปก็คงจะต้องกระแทกอย่างแรงไม่ใช่รึ?
ซือหยูชักสีหน้า เขาใช้ทั้งสองมือวางทาบอกและจัดท่าในการตก เขาใช้หันหลังให้กับพื้น
ปั้ง–
เสียงกระแทกดังลั่น เขาตกลงสู่พื้นและกลิ้งหลายรอบ เขายังรอด! แม้ว่าเสื้อผ้าจะขาดไปบ้างและเจ็บปวดอย่างมากแต่ก็ยังดีที่เขาไม่ได้บาดเจ็บอะไร!
เขามองไปทางบ่อน้ำด้วยความกลัว เขารู้สึกเสียวสันหลัง สิ่งใดกันที่อยู่ในบ่อน้ำนั่น? ถ้าเขาได้มาเจอกับราชามนุษย์เขาก็คงต่อสู้ได้ แต่กับสัตว์ประหลาดน่ากลัวเช่นนี้ ซือหยูคิดอะไรไม่ออกเลย ดูเหมือนว่าจะไม่มีแสงแห่งความหวังกับสัตว์ประหลาดตนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ซือหยูจะต่อสู้มันด้วยพลังวิญญาณและพลังโลหิตที่ไม่หมุนเวียนเพียงแค่เสียงคำราม
เสียงคำรามดังก้องไปไกลในก้นบึ้ง
ซือหยูตรวจสอบร่างกายของตัวเองและรีบทำใจ
“ที่นี่เสียงดังเกินไป ข้าอยู่ที่นี่อีกไม่ได้แล้ว!”
แต่ในตอนที่เขาจะเคลื่อนไหว สองคนก็มุ่งหน้ามาหาเขาอย่างระวังตัว
“พี่หิมะทมิฬ เจอกันอีกแล้ว”
ฉินเซี่ยนเอ๋อตาเป็นประกาย นางเดินเข้าหาซือหยูด้วยรอยยิ้ม
หลงเฟยหยูตกใจมากและมองรอบๆอย่างถี่ถ้วน สุดท้ายเขาก็จ้องไปยังซือหยูและมองรอยที่อกของเขา
ซือหยูมองเซี่ยนเอ๋อ กระเป๋าแต่ละข้างของนางมีกล่องหยกอย่างเดิม นางไม่ได้ผลก้นบึ้งมังกรเพิ่มเลยในครึ่งวันที่ผ่านมา
“ดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้อะไรเหมือนกันนี่”
หลงเฟยหยูพูดอย่างไม่ใส่ใจเมื่อยืนยันได้ว่าซือหยูไม่ได้มีผลก้นบึ้งมังกรเพิ่มขึ้นมา จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วคิด มีเสียงคำรามอันน่ากลัวเมื่อครู่ เขาสงสัยว่าเขาควรจะถามซือหยูหรือไม่
พรึ่บ–
สายลมพัดปลิวจากอีกด้าน สองคนปรากฏตัวขึ้น ทั้งสองคือฉิงจูกับยี่หยู! ทั้งสองระวังตัวในทันที หลังจากมองรอบๆก็เห็นหลงเฟยหยู
หลงเฟยหยูระวังตัวอย่างมาก
“จ้าวแห่งความมืดงั้นรึ?”
หลงเฟยหยูเบิกตากว้างเมื่อเห็นสัญลักษณ์บนผ้าคลุมของทั้งสอง
ฉิงจูขวางหน้าเซี่ยจิงหยู เขาหรี่ตามอง
“แล้วเจ้าเป็นใครกัน?”
ถ้าอีกฝ่ายมีหลงเฟยหยูคนเดียวเขาก็ไม่ต้องระวังเช่นนี้ แต่ราชาปีศาจหิมะทมิฬอยู่กับเขาด้วย
“หลงเฟยหยูแห่งพันธมิตรผู้คุมสวรรค์”
ฉิงจูพูดว่า “พันธมิตรผู้คุมสวรรค์” ตามเบาๆ
“ตระกูลหลงของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์รึ?..”
เขาพูดด้วยความตกใจเล็กๆ
“หรือว่าจะเป็นตระกูลหลง…ที่เป็นเจ้าของเรือรบโบราณนั่น?”
ความหวาดกลัวอยู่ในดวงตาของเขา แม้แต่จ้าวแห่งความมืดก็หวาดกลัวชื่อของตระกูลหลง
หลงเฟยหยูยิ้มอย่างภูมิใจ
“ใช่แล้ว!”
ทั้งสองมองหน้ากัน ฉิงจูยิ้มอย่างอ่อนโยน
“คงเป็นชะตาที่ได้พบกับพี่หลงที่นี่ ข้าฉิงจู ส่วนนางคือยี่หยู เมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้นรึ? ข้าได้ยินเสียงดังมาก!”
ฉิงจูรึ? หลงเฟยหยูหวาดกลัวเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงมองไปทางซือหยู
“ตอนข้ามาถึงเขาก็อยู่ที่นี่แล้ว”
ราชาปีศาจหิมะทมิฬ? ฉิงจูขมวดคิ้ว เขาไม่ได้ประทับใจอะไรในซือหยู เขามองผ่านซือหยูไปยังผิวน้ำที่มีคลื่นยักษ์กระจายออกมา เขาตกใจและหวาดกลัวผิวน้ำนั้นมาก
เขาเหลือบมองซือหยูโดยไม่คิดจะถามอะไร
“พี่หลง ข้ามั่นใจว่าท่านจะต้องได้ผลก้นบึ้งมังกรมากมายเป็นแน่”
ฉิงจูพูดแบบกว้างๆเมื่อมองหลงเฟยหยูกับเซี่ยนเอ๋อ
ฉิงจูยิ้ม เขาดูผ่อนคลายราวกับว่าเขาก็ได้ผลก้นบึ้งมากรมาเยอะเช่นกัน
หลงเฟยหยูถามกลับ
“โอ้? หรือว่าจ้าวฉิงจูจะได้มาเยอะรึ?”
“ไม่เท่าไรหรอก”
ฉิงจูตอบอย่างลังเล
ทั้งสองกำลังทดสอบกันและกัน
แต่ฉินเซี่ยนเอ๋อไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังแอบทดสอบกัน นางเงยหน้าถามโต้งๆ
“พี่หิมะทมิฬ พี่ได้มาเท่าไหร่เหรอ?”
ซือหยูยิ้ม แสงทมิฬเปล่งประกายออกมา ผลก้นบึ้งมังกรไม่สมบูรณ์สามลูกถูกผนึกไว้ในกล่องหยก
“ครึ่งส่วนนี้ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า”
ซือหยูนำกล่องหยกให้กับเซี่ยนเอ๋อ
เซี่ยนเอ๋อตกใจและรีบปฏิเสธ
“ข้าเอาของพี่หิมะทมิฬไม่ได้อีกแล้วล่ะ พี่ก็ต้องบ่มเพาะเหมือนกับข้า”
นางรู้สึกผิดที่เคยรับผลก้นบึ้งมังกรแบบสมบูรณ์มาหนึ่งลูก
ซือหยูยิ้มและดันกล่องหยกใส่นางโดยไม่ฟัง
“เจ้าไม่ได้มีเรื่องสำคัญที่ต้องใช้มันหรอกรึ?”
เซี่ยนเอ๋อจ้องมองด้วยแววตาว่างเปล่า นางขมริมฝีปากและยอมรับไว้
“พี่หิมะทมิฬ ข้าจะต้องตอบแทนพี่แน่นอน ผลก้นบึ้งมังกรนี้สำคัญกับข้ายิ่งนัก”
ใครกันจะไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ…สมบัติเหล่านี้จะทำให้คนกลายเป็นผู้คุมสวรรค์!
“ครึ่งรึ? เจ้าจะบอกว่าเจ้าหาได้หกลูกงั้นรึ?”
ฉิงจูตกใจ เขาแสร้งเป็นใจเย็นและถามด้วยรอยยิ้ม แต่เขาก็มองซือหยูด้วยความนับถือมากขึ้น
หลงเฟยหยูหรี่ตา ซือหยูพยักหน้าเบาๆและเดินไปทางก้นบึ้งหวงห้าม
“น้องหิมะทมิฬ เดี๋ยวก่อน!”
หลังจากลังเล ฉิงจูหยุดเขาอย่างไม่เต็มใจ
ซือหยูหันกลับไปถาม
“อะไรรึ?”
ฉิงจูฝืนยิ้ม
“น้องหิมะทมิฬ ยี่หยูกับข้าพบกับสัตว์ประหลาดน่ากลัวในขอบเขตผู้คุมสวรรค์มากมาย น้องหิมะทมิฬเจอเหมือนกันหรือไม่?”
เขาเจอกับเหล่าสัตว์อสูรจริง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจตัวตนของมันมากนัก
“ทำไมเจ้าไม่พูดสิ่งที่เจ้าคิดออกมาตรงๆเล่า?”
ซือหยูหัวเราะ
“เวลามีจำกัดนะ”
ฉิงจูที่ถูกจับได้อับอายเล็กน้อย
“ข้าอยากจะบอกว่าที่นี่อันตรายมาก แม้แต่ในซากศิลาก็มีความอันตรายที่ไม่รู้จะมาถึงเมื่อใด หากพวกเรากำลังบ่มเพาะพลัง การร่วมมือกันจะไม่ดีกว่าหรอกรึ?”
หลงเฟยหยูตาเป็นประกาย เขาเงียบไป
แต่ซือหยูกลับปฏิเสธในทันทีจนทุกคนประหลาดใจ
“ข้าคุ้นชินกับการลงมือเพียงลำพัง…”
“และข้าก็ร่วมมือกับคนอื่นได้ไม่ดีนัก ถ้านี่คือเรื่องที่จ้าวฉิงจูจะพูดกับข้า ข้าก็คงได้แต่บอกว่าน่าเสียดาย”
ฉิงจูเสียใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าซือหยูคิดเช่นนั้น ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเขาจะเอ่ยปากเช่นนี้รึ? แต่ฉิงจูก็รู้ว่าตัวเองไม่พูดแบบตรงไปตรงมา นั่นทำให้ซือหยูไม่พอใจ
ฉิงจูฝืนยิ้ม
“โอ้ น้องหิมะทมิฬ ให้ข้าพูดตรงๆ ก้นบึ้งมังกรในคราวนี้ประหลาดไป! ตามข้อมูลของข้า แม้จะมีผลก้นบึ้งมังกรน้อยมากในซากศิลา มันก็ไม่ควรจะขาดแคลนถึงขนาดนี้!”
หลงเฟยหยูพยักหน้า อย่างที่คิด พวกเขาหาผลก้นบึ้งมังกรไม่เจอเช่นกัน!
หลังจากที่มองรอบๆ สายตาหลงเฟยหยูเคร่งเครียด
“การบ่มเพาะในก้นบึ้งมังกรครั้งนี้แปลกไปมากจริงๆ…”