You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 135
บทที่ 135 ฉันไว้ใจเธอได้!
หลังจากทำความสะอาดเสร็จ
ห้องด้านล่างนั้นดูสะอาดเอี่ยมพร้อมทั้งปิดเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาเรียบร้อย ปกติแล้วเว่ยชางไม่ได้สวมชุดเกราะตลอดเวลา แต่ครั้งนี้เขาติดตัวไว้ด้วย
“ลุงเว่ย~” ถังเว่ยวิ่งเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่สดใสสุดๆและควงแขนของเว่ยชางไว้
“ลุงเว่ยกำลังจะไปเดทเพราะงั้นที่นี่ปล่อยไว้เป็นหน้าที่ของพวกเราเอง”
“ใช่แล้ว ลุงเว่ยต้องไปปกป้องดอกไม้ประจำร้านนี้”
เสมียนประจำร้านตะโกนขึ้นมา
เว่ยชางลูบหัวถังเว่ยเบาๆและเอ่ยขึ้น “ไปกันเถอะ”
“เย้~” ถังเว่ยเอียงหัวซบไปที่ไหล่ของเว่ยชางใกล้กับหัวใจของเขา มันทำให้เธอรู้สึกว่าเธอและเขาจะไม่แยกจากกันอีก ตัวเธอเองก็แค่อยากจะเหนื่อยไปทั้งวันกับลุงเว่ยเฉยๆ
เว่ยชางนั้นกำลังจะได้เหนื่อยในขณะที่เย่ฮั่วนั้นกำลังหงุดหงิดสุดๆ !
เย่ฮั่วนั่งลงไปบนโซฟาของออฟฟิศ ห้องทั้งห้องประดุจไฟป่าออสเตรเลีย ควันบุหรี่คลุ้งไปหมด และที่เขี่ยบุหรี่เองก็เต็มไปด้วยก้นบุหรี่อีกหลายชีวิต
มองไปยังนาฬิกา นี่มันก็เที่ยงแล้ว!
แต่กระนั้นยัยผู้หญิงนั่นก็ยังคงทำตัวงอนอยู่!
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะไม่แม้กระทั่งเข้ามาตะโกนเรียกด้วย นี่เธอกล้าหลับโดยที่ไม่มีแผงอกอันงดงามของฉันงั้นเหรอ?
นาฬิกายังเดินเรื่อยๆ และเย่ฮั่วก็ยังสูบบุหรี่เหมือนกินควันเป็นอาหารอย่างไม่หยุดยั้ง
ท้ายสุดแล้วฉันก็นั่งต่ออีกนิดหน่อย
ได้! ไม่มาใช่มั้ย! ได้เลยชิงหยา! เธอจะกล้าหาญมากเกินไปซะแล้ว! ฉันจะกลับไปนอนในห้องบ้าง!
ขั้นแรกเลย ไปหาผ้าห่มก่อน
เย่ฮั่วลุกขึ้นและเปิดประตูออฟฟิศ ควันบุหรี่ที่อัดแน่นอยู่นั้นต่างฟุ้งออกราวกับพนักงานดับเพลิงมาฉีดไล่
ณ ที่หน้าประตูห้องนอน เย่ฮั่วพร้อมที่จะเปิดและพุ่งเข้าไปแล้ว แต่ทันใดนั้นเขาก็รับรู้ได้ว่าประตูนั้นล็อค มัน…ล็อคจากข้างใน!
โฮ่ะ โฮ่ นี่เธอคิดจะต่อต้านผืนฟ้าท้าทายสวรรค์งั้นเหรอ ถึงกับต้องขับไล่เทวทูตออกไปนี่เป็นภรรยาแบบไหนกัน!
อยากจะยกเท้าถีบประตูแต่ก็ยังเกรงใจ เมื่อแอบมองเข้าไปในห้องนั้นก็พบว่าชิงหยากำลังกอดตุ๊กตาตัวใหญ่อยู่ ใบหน้าสวยนั้นหลับปุ๋ยพร้อมรอยยิ้ม
นี่หล่อนหลับปุ๋ยพร้อมรอยยิ้มขณะที่ปล่อยให้เทวทูตนอนไม่หลับงั้นเหรอ!!
ถ้าฉันไม่ได้นอน เธอก็ไม่ได้นอน!
เย่ฮั่วเคาะประตูห้องจากนั้นก็กลับไปยังออฟฟิศ
ชิงหยาที่กำลังหลับสบายค่อยๆลืมตาตื่นและลุกออกจากเตียงอย่างงัวเงีย ใครจะไปรู้ว่าด้านนอกนั้นไม่มีใครอยู่
“คงจะเป็นผู้ฝึกตนหรือไม่ก็เด็กเล็กๆมั้ง… ฮ้าว~” ชิงหยาปิดประตูแล้วกลับไปนอนตามเดิม
ถ้านายเก่งมากนักก็นอนที่ออฟฟิศไปสิ
เย่ฮั่วหายใจฟึดฟัดอยู่ในออฟฟิศ หวังว่าวันหนึ่งเธอจะเป็นฝ่ายถามผู้สูงส่งอย่างเขาเองว่าจะกลับไปนอนเตียงไหม เมื่อนั้นล่ะก็ จะลงโทษให้เข็ดเลย! ช่างเป็นผู้หญิงที่หยิ่งยโสอะไรขนาดนี้!
เย่ฮั่วตัดสินใจจะไม่นอนเย็นนี้ และจะทำการใหญ่เมื่อวันรุ่งขึ้นมาถึง!
เปิดทีวีและดูพี่น้องน้ำเต้าช่วยคุณปู่ เป็นอะไรที่ดูแล้วมีความสุขดีจริงๆ เจ้าหมาป่าสีเทานั่นก็ดูอึดอัดจัง ถ้าโลกใบนี้ต้องการให้เทวทูตจัดการหมาป่าสีแดงด้วยการตบ 2 ที เราก็จะได้เฉิดฉายในแบบที่ควรเป็นแน่ๆ
เมื่อการตัดสินใจถูกเลือกแล้ว เย่ฮั่วก็เตรียมพริกไทยดำ ถั่วเผ็ด สไปรท์ ควัน ไวน์ แล้วก็บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
เจ๋ง!
เวลานั้นเดินผ่านไปอย่างช้าๆ ท้องฟ้าเพิ่งจะเริ่มสาดแสงสีขาวเอง และเมื่อประตูเปิด จิตวิญญาณของเย่ฮั่วก็กลับเข้าร่างในทันที แต่กระนั้นตาก็ยังอยู่กับทีวีอยู่
โดยปกติแล้วน้องสะใภ้เขาค่อนข้างจะขี้เกียจ บางครั้งแล้วเที่ยงก็ยังไม่ตื่น เพราะงั้นนี่น่ะ เป็นชิงหยาแน่ๆ!
เย่ฮั่วได้ยิงเสียงของชิงหยาเดินลงบันได เขาออกไปยืนที่หน้าต่างและมองออกไปยังระเบียง
ชัวร์เลยว่าชิงหยาต้องกำลังไปซื้อข้าวเช้าแน่ๆ ดวงตาของเย่ฮั่วเป็นประกายเมื่อได้เห็นเช่นนั้น
เขากลับเข้าไปยังห้องนอน แล้วก็มองไปยังไอ้สิ่งที่มาแทนที่เขา จากนั้นก็เผามันด้วยความโกรธเกรี้ยว!
หยิบตุ๊กตาตัวใหญ่ขึ้นมาจากบนเตียง ฉีกมันอย่างรุนแรงจากนั้นก็โยนมันไปเหนือหัว
“ในวันต่อไป!”
“แกหมดประโยชน์แล้ว!”
“แกมันปีศาจ!”
“แสงสุริยันจะแผดเผาผืนนภา!”
“พระศาสดาจะลุกไหม้!”
มองจากนอกหน้าต่าง ห้องนอนนั้นมีแสงแว้บๆเหหมือนเปิดผับอย่างไรอย่างนั้นเลย
เย่ฮั่วถอนหายใจด้วยความโล่งอกและบ่นพึมพัม “แกมันก็แค่ตัวแทนของฉัน” จากนั้นเขาจึงเปิดประตูแล้วเดินออกไป
ตุ๊กตาเพิ่งจะถูกเผาไปนั้นไม่เหลือซากอะไรทั้งสิ้น ไม่เหลือแม้กระทั่งเปลวไฟที่เผาไหม้มัน
ตุ๊กตา : อิหยังนิ นี่แค้นกันมาแต่ชาติปางไหนป่ะเนี่ย?
กลับไปยังออฟฟิศ เย่ฮั่วยืนอยู่ที่หน้าต่างและคอยสังเกตุการณ์การเคลื่อนไหวของชิงหยาตลอด และหลังจากนั้นกว่า 10 นาที เธอก็กลับมาพร้อมอาหารเช้า
เย่ฮั่วดับบุหรี่และรอให้ชิงหยาเดินขึ้นบันไดมา
ฟังเสียงฝีเท้าที่คุ้นหู เย่ฮั่วขมวดคิ้วและสูดหายใจลึก แต่เสียงนั้นกลับหยุดอยู่ที่หน้าประตู
เขาไม่สนใจอะไรแล้ว ร่างกายของเย่ฮั่วหายวับและไปโผล่ที่โซฟา ขณะที่ผ้าห่มเองก็ตกอยู่บนพื้นห้องตอนประตูเปิด
ชิงหยาเปิดประตูเข้ามาและขมวดคิ้วกับสภาพที่เห็น มันเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่และบะหมี่ เธอมองไปยังชายที่อยู่บนโซฟาและถอนหายใจออกมา
เสียงฝีเท้าก้าวเบาเดินเข้าไปหยิบผ้าห่มจากพื้นและค่อยๆบรรจงห่มให้เขา ก่อนจะวางอาหารเช้าบนโต๊ะกาแฟ เปิดหน้าต่างให้มีอากาศหายใจบ้าง และเมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วจึงออกจากออฟฟิศไป
เมื่อประตูปิด เย่ฮั่วก็ค่อยๆแอบลืมตามา เขามองไปยังผ้าห่มบนตัวเขาเฉกเช่นที่มองแพนเค้กผลไม้บนโต๊ะกาแฟ เขาค่อยๆหายใจ “ฉันไว้ใจเธอได้สินะ”
หยิบแพนเค้กผลไม้ขึ้นมาและมองไปที่ไส้ เหมือนว่ามันจะโดนเพิ่มไข่และแฮมเข้ามาไว้แล้ว
เมื่อกัดลงไป รับรู้ได้ว่ามันมีกลิ่นหอมรุนแรงกว่าที่ซื้อเองอยู่นิดหน่อย
กลับเข้าไปยังห้องนอน ชิงหยาหยุดกึก นั่นเพราะว่าตุ๊กตาที่อยู่บนเตียงนั้นหายไป ก่อนหน้านี้เพียงแค่ 10 นาทีมันยังอยู่ เป็นไปได้เหรอว่าจะหายไปเองแบบอัตโนมัติ เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากหมอนั่นจะเข้ามาในนี้ เจ้าคนเห็นแก่ตัว!
คิดว่าทำลายตุ๊กตาฉันไปแล้ว ฉันจะไปอ้อนวอนให้นายกลับมานอนด้วยงั้นสินะ? ฝันไปเถอะ คิดเหรอว่าไม่เคยเผื่อว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นเอาไว้น่ะ?
เปิดตู้เสื้อผ้าออกและในนั้นยังมีตุ๊กตาตัวใหญ่อีก 3 ตัวที่ถูกกองผ้าทับไว้
“เย่ฮั่ว~ ดูเหมือนนายจะนอนที่ออฟฟิศมาหลายวันแล้วสินะ”
เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วชิงหยาก็ยิ้มและหัวเราะออกมาบนเตียง เย่ฮั่วนั้นก็มีมุมน่ารักๆเหมือนกันนะ ถึงจะเป็นพวกขี้หวง แต่ถ้าเธอกลับมาพอดิบพอดีกับตอนที่เขากำลังทำลายตุ๊กตาของเธอ อยากรู้จังว่าจะทำสีหน้าแบบไหนออกมา
นี่มันก็จะเที่ยงแล้ว เย่ฮั่วออกจากห้องไปยังห้องนอนโดยไม่ระมัดระวัง ก่อนจะเอ่ยถามชิงหยาที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง “เที่ยงแล้วจะกินอะไร?”
“อะไรก็ได้” ชิงหยาตอบกลับด้วยเสียงเอื่อยเฉื่อย
มองไปยังท่าทางของเธอ มันดูน่าสูบฉีดเสียจริง สมรรถณตอนเช้าเช่นนี้ไม่เลวร้ายซะทีเดียว แต่ไว้เย็นๆดีกว่า
“ฉันเตรียมเนื้อไว้ เหมือนกับเมื่อตอนนั้น” เย่ฮั่วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าของเขามองไปที่อื่นราวกับไม่ได้แคร์อะไร
ชิงหยาช่วยอะไรไม่ได้แต่ก็เผลอหลุดหัวเราะดังออกมา ชายคนนี้บางครั้งเขาก็ดูตื่นกับตัวเอง บางครั้งก็ดูเงียบสงบ ดูตอนนี้สิ กลายเป็นพวกที่ไม่แคร์อะไรไปแล้ว
“ดี” ชิงหยาตอบเสียงอ่อน
เย่ฮั่วมองไปยังแพนเค้กผลไม้ที่เป็นมื้อเช้าของเขา ไม่งั้นล่ะก็คงไม่ยอมทำให้กินหรอก
“ชิงยูตง! ถ้าไม่ออกมาจะไม่มีข้าวกินนะ!” เย่ฮั่วตะโกนอยู่หน้าประตูห้องของน้องสะใภ้
เธอไม่ยอมออกมาแต่ก็ส่งเสียงตอบแบบนุ่มนวล “ไม่ต้องมาเรียกหนูตอนจะกิน ปล่อยหนูไว้แบบนี้”
“กลางวันนี้มีเนื้อ” เย่ฮั่วพูดเสริม
ภายในห้องนั้นเกิดเสียงอึกทึกครึกโครมขึ้นทันใด และประตูก็เปิดแทบจะทันทีด้วย อีกฟากนึงนั้นพบชิงยูตงที่ดูจะตื่นเต้นสุดๆ “พี่เขย จริงเหรอ!?”
เย่ฮั่วยักคิ้ว
ชิงยูตงดีใจราวกับเป็นหมีโคอาล่าก่อนจะกระโดดเกาะเย่ฮั่วไว้
“ออกไป!”
“งุ่มมมมมมมม”
“ฉันคันก้น!”
ชิงยูตงรีบปล่อยทันที “พี่เขย อยากให้หนูช่วยอะไรมั้ย? หนูล้างผักเก่งนะ!”
“ให้ว่องเลย!”
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้น่า~”
ในตอนกลางวันนั้นเอง เย่ฮั่วก็จัดเตรียมงานเลี้ยงร้างที่ดีที่สุด ชิงหยานั้นมาพร้อมกับใบหน้าที่ดูเอื่อยเฉื่อย ง่วงเพลียและหัวใจของฉันกำลังเบ่งบาน
ชิงยูตงนั้นไม่ได้เรื่องมาก ตราบใดที่ตรงหน้าเป็นเนื้อสดพร้อมกับใครจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเธอแล้ว เนื้อนี่มันอร่อยสุดๆ ทั้งนุ่มแล้วก็ฉ่ำไปหมด