You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 158
GG:บทที่ 158 – น้องสาวที่เป็นญาติห่างๆ
“ลุงเว่ย ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวนอนก่อนก็แล้วกัน คุณเองก็พักผ่อนนะคะ” ถังเว่ยพูดอย่างเจ็บใจและไม่สนใจเว่ยชางอีกต่อไป
เว่ยชางได้แต่ถอนหายใจออกมายาวแรง
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเสี่ยวถังผิดหวังในตัวเขาอย่างไรก็ไม่รู้ มันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้นเลยนี่
ขณะนี้ เว่ยชางคิดว่าตนเองกำลังแสดงความเป็นสุภาพบุรุษออกมาอย่างเต็มเปี่ยม เธอควรจะชอบสิ ก็เห็นพระเอกในละครทีวีทำแบบนี้กันทั้งนั้น…
เว่ยชางหลับไปพร้อมกับมีข้อสงสัยมากมายวนเวียนอยู่ในหัว แต่ถ้ามองภาพโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเขาทำก้าวแรกได้สำเร็จ อย่างน้อยถังเว่ยกับเขาก็ได้นอนอยู่เคียงข้างกัน
เมื่อคิดถึงอนาคตที่ว่าเสี่ยวถังอาจจะมีลูก ถึงตอนนั้นเธอก็ไม่ควรทำงานให้ตระกูลชิงอีกแล้ว เขาจะต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้ แต่แค่คิดก็ปวดหัวเหลือเกิน ทำไมมนุษย์เวลารักกันแล้วต้องมีลูกด้วยนะ?
แต่เว่ยชางไม่รู้เลยว่าถ้าตนเองปรึกษาเรื่องนี้กับเย่ฮัว ผู้เป็นนายเหนือหัวก็จะมอบคำแนะนำให้กับเขาได้เป็นอย่างมาก ในฐานะผู้ชาย เว่ยชางควรทำตัวเป็นใหญ่ ไม่อย่างนั้นผู้หญิงก็จะไม่เชื่อฟัง
ในขณะเดียวกันนั้น เย่ฮัวจัดการเปลี่ยนให้ชิงหยามาสวมใส่ชุดนอน เรือนร่างของเธอยิ่งดูดึงดูดมากกว่าเดิม ผิวพรรณอันนวลเนียลดูเย้ายวนใจเหลือเกินภายใต้แสงไฟเลือนราง ชายหนุ่มถึงกับอดใจไม่ไหวจริงๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครมองเห็น หรือถ้ามีใครมองเห็น เขาก็จะฆ่ามันผู้นั้นทิ้งซะ!
เคี๊ยะๆๆๆ
…
ดวงตะวันโผล่พ้นยอดเขาสีเขียวขจี แสงแดดแสนอบอุ่นอาบไล้ทั่วหุบเขา ทำให้ทุกคนที่มาพักผ่อนที่นี่รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างยิ่ง
“ฮื่อ”
เย่ฮัวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา และพบว่าชิงหยาพูดกับเขาทันที ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก
“เย่ฮัว ฉันหิวแล้วอ่ะ” ชิงหยาส่งเสียงพึมพำ ดูเหมือนเธอขี้เกียจแม้แต่จะอ้าปากด้วยซ้ำ
“ถ้าหิวก็ลุกขึ้นไปทำอาหารเช้าสิ”
”ฉันไม่อยากลุก ฉันอยากนอนอยู่แบบนี้มากกว่า” ชิงหยาขยับตัวเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่นอนสบายมากที่สุด
เย่ฮัวหัวเราะในลำคอ “ตอนนี้เราไม่ได้อยู่บ้านนะ”
ชิงหยาเบิกตาโตและหันมองรอบตัว ทันใดนั้น ก็นึกได้ว่าเมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น
“เมื่อคืนคุณฝันร้าย” เย่ฮัวพูดเสียงราบเรียบขณะสบตามองดวงตาที่แสดงความตื่นกลัวของชิงหยา
ชิงหยาขมวดคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อ “ฝันร้ายเหรอคะ”
“ใช่ เมื่อวานกินข้าวเสร็จคุณก็เข้านอนเลย”
“ที่แท้ก็ฝันนี่เอง กลัวแทบแย่แน่ะ” ชิงหยายกมือทาบอกอย่างรู้สึกไม่ดี นั่นเองเธอถึงได้รู้ตัวว่ากำลังสวมใส่ชุดนอนอยู่ ว่าแต่เธอเปลี่ยนมาใส่ชุดนอนตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
เย่ฮัวพูดขึ้นว่า “ผมเปลี่ยนให้คุณเองแหละ”
“ฉวยโอกาสอีกแล้วนะ!” ชิงหยาพูดด้วยน้ำเสียงแง่งอน ยกมือป้องกันหน้าอกทำท่าเหมือนจะต่อยมวย
เย่ฮัวหยิกแก้มภรรยาเบาๆ “ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว กินมื้อเช้าเสร็จ เราจะกลับกัน”
พูดจบ เย่ฮัวก็เดินออกมาจากเต็นท์ก่อน ที่นี่มีอากาศบริสุทธิ์ ชายหนุ่มจุดบุหรี่สูบ สาวรับใช้ทั้ง 4 คนตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำอาหารเช้า เว่ยชางหลบไปนั่งอยู่ริมน้ำท่าทางเหม่อลอย ในขณะที่เลี่ยกู่ยังไม่ตื่น
“มานั่งทำอะไรตรงนี้” เย่ฮัวเดินเข้าไปยืนอยู่ด้านข้างและถามออกมาเสียงดัง
เว่ยชางสะดุ้งโหยง รีบลุกขึ้นแสดงความเคารพ “นายท่าน”
เย่ฮัวพ่นควันบุหรี่ออกมา “ทำหน้าเศร้าตั้งแต่เช้าเชียว”
แต่จะให้เว่ยชางพูดเรื่องนั้นออกมาได้อย่างไร? มันน่าอับอายมากเกินไป…
“มีข้อสงสัยบางอย่างที่ข้าน้อยกำลังขบคิดอยู่น่ะ นายท่าน”
“เหรอ ข้อสงสัยเรื่องอะไรกันล่ะ?”
เว่ยชางรู้สึกอยากจะสูบบุหรี่ขึ้นมาเช่นกัน มีข้อแก้ตัวมากมายที่เขาใช้พูดออกไปได้ แต่เว่ยชางก็ต้องเลือกสิ่งที่ฟังดูมีเหตุผลมากที่สุด สำหรับการออกมานั่งเครียดอยู่ริมน้ำตั้งแต่เช้าตรู่
“ข้าน้อยคิดเรื่องที่นายท่านทำเมื่อคืนนี้ ข้าน้อยสงสัยว่าทำไมนายท่านถึงมอบเจดีย์เก้าปีศาจให้กับหวังต้าเป่า แทนที่จะมอบให้คนอื่นไปซะ” เว่ยชางนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ จึงพูดออกมาทันที
เย่ฮัวรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจดี จึงตั้งใจรับฟังต่อไป
เว่ยชางสูดหายใจลึกและพูดต่อว่า “แล้วข้าน้อยก็เข้าใจ หวังต้าเป่าอาจดูเหมือนเป็นคนฝั่งใต้ แต่ภรรยาเขามาจากฟากเหนือ เราได้ยินกันมาตลอดว่าหวังต้าเป่าเชื่อฟังภรรยายิ่งกว่าอะไรดี เมื่อมอบอาวุธโบราณให้กับเขาไป ก็เท่ากับอาวุธโบราณตกไปอยู่ในมือของฟากเหนือ คราวนี้ ฝั่งใต้จึงเป็นฝ่ายเสียหน้าเต็มๆ และพวกเขาจะต้องหาทางแก้แค้นฟากเหนือแน่นอน”
เย่ฮัวดีดก้นบุหรี่ทิ้งไป ดวงตาปรากฏแววชื่นชม “ถูกต้อง นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันตั้งใจทำ ให้พวกเขาไปสู้กันเอง เมื่อสู้กันจบแล้ว เราค่อยเดินเข้าไปบอกความจริง ฉันอยากเห็นว่ามนุษย์พวกนี้จะแสดงธาตุแท้อะไรออกมาบ้าง การได้เห็นธาตุแท้ของมนุษย์ คือเรื่องสนุกที่สุดแล้วล่ะ!”
“วิสัยทัศน์ของนายท่านเด็ดขาดไม่มีใครเหมือนจริงๆ ข้าน้อยเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง!”
เย่ฮัวตบหัวไหล่เว่ยชาง “นั่นแหละ พยายามเรียนรู้กลยุทธ์ต่างๆ เข้าไว้ นับเป็นเรื่องดี”
“ข้าน้อยก็ชอบอ่านหนังสือของมนุษย์เวลาที่มีเวลาว่างเหมือนกันครับ”
มุมปากของเย่ฮัวบิดตัวขึ้นเป็นรอยยิ้ม “เอาล่ะ ไปปลุกเลี่ยกู่ได้แล้ว หลังกินมื้อเช้าเสร็จ เราจะไปรับเย่จีจี้”
“รับทราบครับนายท่าน!”
ในเวลาเดียวกันนี้ ชิงหยาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว และกำลังเดินออกมาจากเต็นท์
เธอหลับตาเหยียดแขนบิดขี้เกียจ ดื่มด่ำไปกับอากาศบริสุทธิ์รอบตัว ทันใดนั้นก็ได้กลิ่นบุหรี่ลอยตามลมมาอย่างไม่คาดคิด ชิงหยาหันไปมองเย่ฮัว ก่อนที่จะเดินมาดูว่าเช้านี้มีอะไรกินบ้าง
ภายใต้การนำของชิงหยา พวกเขาก็ได้เมนูอาหารเช้าที่ดูหรูหราเพิ่มมากขึ้น
ระหว่างที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร เย่ฮัวซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะพูดออกมาเสียงดังว่า “กินเสร็จเราก็กลับกันเลยนะ”
“ทำไมถึงรีบจัง?” ดูเหมือนว่าชิงหยาจะยังคงอยากพักผ่อนอยู่ที่นี่ต่อ
เย่ฮัวกัดขนมปังก่อนตอบ “ผมต้องไปรับน้องสาวที่เป็นญาติห่างๆ เธออยากเข้าไปเรียนต่อในเมือง คุณช่วยจัดการให้หน่อยก็แล้วกัน”
“อ๋อ ได้เลยค่ะ ฉันจะติดต่อให้นะ ว่าแต่น้องสาวคุณอายุเท่าไหร่ อยู่มอต้นหรือว่าอยู่มอปลายแล้ว?” ชิงหยาถามพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยท่าทางใจดี
อยู่มอต้นหรือว่ามอปลายดีล่ะ?
เย่ฮัวหันไปมองหน้าเว่ยชางกับเลี่ยกู่อย่างขอความช่วยเหลือ แต่ผู้ติดตามของเขาก็ได้แต่ก้มหน้าและตอบว่าไม่รู้
“น้องผมอายุ 8 ขวบ” เย่ฮัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเย่จีจี้ควรจะเรียนอยู่ระดับไหนในโรงเรียนของมนุษย์ เพราะว่าเขาไม่เคยเรียนหนังสือมาก่อน
ชิงหยานิ่งคิดอยู่อึดใจหนึ่ง ก่อนที่จะพึมพำว่า “อายุ 8 ขวบ ก็น่าจะอยู่เรียนอยู่ระดับประถม ประมาณเกรด 3 นะคะ”
“ใช่ นั่นแหละ” เย่ฮัวตอบ
ชิงหยาติดต่อไปหาคนที่ชื่อว่าหลิวหัง ซึ่งเป็นผู้จัดการใหญ่ในเมืองหลงอัน เธอขอให้เขาช่วยจัดการเรื่องบรรจุเด็กนักเรียนคนใหม่เข้าสู่โรงเรียนชื่อดังประจำเมือง
“เย่ฮัว เดี๋ยวส่งข้อมูลของน้องสาวคุณให้ฉันด้วยนะ” ชิงหยาพูด
เมื่อพูดถึงเรื่องข้อมูลแล้ว เย่ฮัวคิดว่าเย่จีจี้จำเป็นต้องมีข้อมูลส่วนตัวที่แน่นหนาน่าเชื่อถือ เขาจะปล่อยให้จิ่วเย่จัดการเรื่องนี้ก็แล้วกัน
“ได้สิ เดี๋ยวผมให้คนส่งมาให้”
หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ พวกเขาก็เดินทางออกมาจากหุบเขา สำหรับหญิงสาวที่อยู่ในกลุ่มเกือบทุกคนแล้ว การมาเที่ยวค้างคืนครั้งนี้ค่อนข้างสนุกสนานและน่าตื่นเต้นไม่น้อย
แต่สำหรับเว่ยชางกับถังเว่ย นี่คือเรื่องที่ยากอธิบาย
อันที่จริง คนที่มีความสุขที่สุดกลับเป็นเย่ฮัว ซึ่งกำลังโอบกอดชิงหยาอยู่ในอ้อมแขน แม้ว่าจะอยู่ที่ไหนเวลาใด ดูเหมือนว่าเขาจะอดใจกอดเธอไม่ไหวจริงๆ
ระหว่างที่อยู่บนทางด่วน ชิงหยาเอนตัวซบไหล่เย่ฮัว และถามว่า “เย่ฮัว ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณมีน้องสาวด้วย?”
“ผมไม่ได้เจอน้องคนนี้มานานแล้ว”
ชิงหยาแกล้งทำเป็นทุบหน้าอกของเขา “บอกมานะ คุณยังปิดบังอะไรฉันอยู่อีกบ้าง”
เมื่อเว่ยชางมองกระจกส่องหลังก็เห็นว่าเย่ฮัวหันเหความสนใจของชิงหยา ด้วยการโน้มหน้าจูบริมฝีปากเธอ
“คนน่าเกลียด! มีคนอื่นอยู่ด้วยนะ”
“แค่พวกเขาไม่มองก็ไม่เป็นไรแล้ว”
เว่ยชางกับเลี่ยกู่รู้สึกอิจฉาขึ้นมาแล้ว โดยเฉพาะเว่ยชาง ทำไมนายเหนือหัวถึงควบคุมผู้หญิงได้ง่ายดายขนาดนี้ เขาควรใช้เวลานี้แหละเรียนรู้ทักษะนี้จากนายเหนือหัวให้มากที่สุด
ถ้าเว่ยชางได้มีโอกาสถามคำถามนี้ สิ่งที่เย่ฮัวอยากจะพูดก็คือ “ถ้านายไม่เคยรู้ทักษะการจีบผู้หญิงมาก่อน แค่มีแฟนได้ ก็นับว่าเป็นบุญหัวของนายแล้วจริงๆ”