You Cannot Afford To Offend My Woman ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! - ตอนที่ 215
บทที่ 215 3 ปีที่แล้ว
ในอกของเย่ฮัวมันสั่นคลอนไปหมด แม้แต่มือไม้ก็ยังอ่อนแรง เขากระซิบกับเธอไปเบาๆ “ไม่ต้องการอะไรกัน เธอจำเป็นต้องมีฉันนะ!”
“ฉันจะไปนอนที่ออฟฟิศ ไม่รบกวนการกลับมาของครอบครัวนายหรอก”
“ชิงหยา! มีเหตุผลหน่อย!”
ท่าทีของชิงหยานั้นดูจะไม่กล้าหันมามองเขาแล้ว “ฉันมีเหตุผลที่สุดแล้วตอนนี้ เพราะถ้าไม่มี…ป่านนี้คงเป็นบ้าอยู่”
เย่ฮัวพูดอะไรไม่ออก เขาได้แต่มองชิงหยาที่หอบเอาผ้าห่มและออกไปนอนที่ออฟฟิศ
ปัง!
เสียงปิดประตูนั้นเปี่ยมด้วยพละกำลัง ถ้าเธอรู้ว่ากำลังปิดประตูใส่เทวทูตอยู่ล่ะก็ เธอคงไม่กล้าทำแบบนี้แน่!
2 คนแล้ว! ไม่ว่าจะผู้หญิงคนไหนก็ไม่มีใครช่วงปกป้องฉันเลย! ต่างเอาดีเอาเด่นกันเรื่องทำให้ฉันหงุดหงิดนัก!
นี่คือสิ่งที่พวกอยากได้รึไงกัน! ถึงเทวทูตจะถึกทนแต่ก็สามารถชัทดาวน์ตัวเองไปตลอดชีวิตได้นะ ฉันจะได้ไม่ต้องกลับมาคิดเรื่องนี้อีกตลอดไป!
เมื่อมองกลับมายังลูกสาวของเขาเองที่อยู่บนเตียง เย่ฮัวค่อยๆสัมผัสไปที่หน้าผากของอาหลี่เบาๆ…หรือจะมีแค่ลูกสาวที่เชื่อฟังเขา
ตู้ม! เคร้ง! โครมคราม!
เสียงดังกึกก้องดังมาจากข้างล่าง มันกลับเสียงกรนเบาๆของอาหลี่ซะมิดเลย ดูท่ายัยตัวที่อยู่ข้างล่างจะเริ่มบ้าอีกแล้วสินะ!
หยิบผ้าเช็ดหน้ามาและปิดหูเด็กสาวไว้ไม่ให้ตื่นด้วยสิ่งที่ยัยแม่เลือดร้อนของเธอกำลังทำอยู่
เขาออกจากห้อง หยิบบุหรี่มาจุดสูบและเดินลงไปด้านล่าง
ร่างสูงมองไปยังตงฮวงไป๋หลี่ถี่ถือเก้าอี้เดินไปเดินมา บริเวณที่ขังเธอไว้นั้นเละเทะหมดแล้ว นี่ถ้าให้ไฟแช็คไว้มีหวังได้เผาชิงบาร์ไปแล้วแน่ๆ
เย่ฮัวเดินผ่านมาดูตงฮวงไป๋หลี่ที่กำลังวุ่นวายพร้อมบุหรี่ในมือ เขารู้สึกไม่สบายใจนักเพราะงั้นเธอควรจะได้รับการระบายที่ถูกวิธี
“เห้ย นายน่ะ! เอามีดมาแทงฉันให้ตายไปเลยสิ!!” ตงฮวงไป๋หลี่มองเย่ฮัวที่เดินเข้ามา เธอยกเก้าอี้ขึ้นและวิ่งตรงมาทางเขาพร้อมทั้งตะโกนเสียงดังไปด้วย
แต่ผลลัพธ์ก็เป็นเช่นเดิม ร่างของเธอถูกหยุดไว้ด้วยกำแพงลงและเย่ฮัวเองก็คิดไว้ว่าจะต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เขายืนอยู่ตรงหน้ากำแพงลมนั้นราวกับมาเยี่ยมนักโทษ
“นี่ก็ผ่านมาหลายนาทีแล้ว ดูเหมือนว่าความบ้าของเธอมันยังไม่ลดลงเลยนะ” เย่ฮัวพูดก่อนจะเดินไปยังบาร์และหยิบเอาแก้วไวน์ออกมา
“ต่อสิ ฉันจะนั่งดู” มือก็ถือแก้วไวน์ในขณะที่ปากก็บอกเธอไปด้วยเสียงอันเบา
ตงฮวงไป๋หลี่วางเก้าอี้ลงแล้วถามกลับด้วยเสียงอันดัง “นายต้องการอะไร!”
“ฉันพูดไปแล้ว และจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่สองหรอกนะ”
เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็น “ฉันทำมันไม่ได้…”
“ก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะทำมันได้ตอนนี้ ค่อยเป็นค่อยไป ฉันมีเวลา” เย่ฮัวพูดเบาๆแล้วก็เล่นกับแก้วไวน์ในมือต่อไป
นัยน์ตาของตงฮวงไป๋หลี่นั้นแดงขึ้นเมื่อได้มองหน้าเขา เธออยากจะเข้าไปจัดการเขาเสียจริงไอ้ท่าทีที่เหมือนคนแก่นั่นน่ะ
“ลูกสาวฉันล่ะ!”
“เย็นไว้ เธอนอนอยู่ข้างบน”
ตงฮวงไป๋หลี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยๆเด็กสาวก็ยังอยู่ดี
เธอวางเก้าอี้ดีๆแล้วนั่งไปตรงข้ามกับเย่ฮัว ระยะห่างของทั้งสองถูกขั้นไว้ด้วยกำแพงลม แต่ท่าทีของเธอนั้นเหมือนจะอยากต่อรองแล้ว
“ทำยังไงนายถึงจะยอมปล่อยฉันและลูกสาวไปซักที” ตงฮวงไป๋หลี่ถาม
เย่ฮัวไม่ได้ตอบคำถามนั้น แต่เขาก็ถามกลบ “ทำไมอาหลี่ถึงออกจากบ้านมาคนเดียว?”
เธอเงียบไป
“ฉันถามเธออยู่!” เย่ฮัวทุบโต๊ะแล้วตะโกนเสียงดัง
ตงฮวงไป๋หลี่ที่ตกใจที่ตะโกนตอบ “แล้วนายจะมาสนใจทำไมเล่า!”
เย่ฮัวได้ฟังก็เกรี้ยวกราดขึ้นมา เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่ขาดความรับผิดชอบขนาดนี้มาก่อนเลย
“เธอเป็นแม่คนนะ! ถ้าอาหลี่อยู่นอกบ้าน ไม่ว่าจะ 3 วันหรือเอาจริงๆแค่ 2 วันเธอก็ควรจะออกตามหาแล้ว! รู้ไว้นะว่าที่ฉันยังไม่ฆ่าเธอก็เพราะว่าพี่น้องเขียวแดงที่พาอาหลี่มาส่ง! ไม่งั้นป่านนี้จะถูกขายไปไหนแล้วก็ไม่รู้!” เย่ฮัวเริ่มที่จะตำหนิแทนการสั่งสอนแล้ว เขาตอนนี้เหมือนคนแก่ที่ขี้บ่นเลย
ตงฮวงไป๋หลี่เหมือนโดนตบหน้า เมื่อเธอได้ยินว่าลูกสาวเธอกำลังจะถูกขายเธอก็รีบถามรายละเอียดเลย “เกิดอะไรขึ้น! เกิดอะไรขึ้นกับอาหลี่น่ะ!!?”
“ตอนนี้โอเคแล้ว ฉันเพิ่งจะจัดการเรื่องนั้นไป แต่ถึงอย่างงั้นเธอก็ต้องคิดถึงผลพวงที่จะเกิดจากความชะล่าใจของเธอด้วย! จะเกลียดฉันก็เกลียดไป แต่จำไว้ว่าถ้าจะพาลูกไป ก็ต้องทำตัวเป็นแม่ที่ดีให้ได้ซะก่อน!”
ในความเป็นจริงแล้วที่เย่ฮัวพูดมันก็ทำให้เธอเถียงไม่ออก เพราะนั่นมันเป็นเรื่องจริง เธอนั้นไม่ได้เป็นแม่ที่ดีมากนักมาโดยตลอด เธอมักจะทำให้เด็กสาวต้องเกิดความไม่พอใจ และเมื่อได้คิดถึงมันก็เหมือนว่าตัวเธอเองกำลังทำลายตัวเองช้าๆ
“แล้วนายได้เป็นพ่อที่ดีเหมือนที่ว่าฉันหรือยังล่ะ ฮะ!”
“อย่างน้อยๆวันนี้ฉันก็เป็นแล้ว” เย่ฮัวตอบกลับทันควัน
“แล้วเป็นผู้ชายที่ดีได้หรือยัง!”
เย่ฮัวพ่นควันบุหรี่ออกมาและถามกลับเบาๆ “นี่เธอยังตอกย้ำฉันเรื่องที่ฉันไม่ยอมเจอหน้าเธอเมื่อ 3 ปีที่แล้วอยู่อีกเหรอ?”
ตงฮวงไป๋หลี่เริ่มที่จะพูดออกมาเรื่อยๆ “นายบอกว่านายจะไม่แตะต้องผู้หญิงคนเดิมๆซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง!”
“นายมันคนโกหก!”
โอเค ข้อนี้ยอมก็ได้ มันเป็นเรื่องจริง
มองเย่ฮัวที่ไม่ได้หืออืออะไรตงฮวงไป๋หลี่ก็พูดต่อ “ทำไม? ไม่อยากให้ฉันพูดเรื่องนี้หรือไง? อ๋อเพราะว่ามันไม่ดี? หรือว่าเพราะมันไม่เท่ล่ะ!”
“เย่ฮัว นายน่ะมันก็แค่คนลวงโลกที่จ้องจะหลอกคนอื่นไปทั่ว ประโยคพวกนั้นที่พูดไว้กับฉัน ฉันจำมันได้ดี!”
จริงๆเย่ฮัวเองก็อยากจะกลืนคำพูดพวกนั้นมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสซักทีเหมือนกัน
“นายน่ะ มันเป็นพวกขี้โกง ขี้โกงแบบที่ฉันไม่เคยเจอมาก่อนเลย! จำไว้ซะเย่ฮัว! ถ้านายยอมออกมาตอนนั้น นายกับฉันก็จะไม่มีปัญหากันในตอนนี้!” ตงฮวงไป๋หลี่พูดเชิงหัวเราะ
เย่ฮัวขึ้นเสียง “ขี้โกง ฉันเนี่ยนะ? แล้วที่เธอทำกับฉันนี่เรียกว่าอะไร? ไม่ใช่ว่าเพราะเพิ่งจำฉันได้หรอกเหรอ? ละอายใจบ้างมั้ยเวลาฉันพูดความจริงน่ะ? เอาล่ะ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ฉันเป็นคนดี และเธอควรจะเข้าใจความจริงนี้ซะ”
ตงฮวงไป๋หลี่ช็อคกับคำพูดของเขาและหยิบเก้าอี้ขึ้นมาหมายจะทุ่มใส่เขาเลย “ไปตายซะ! นายน่ะมันไอ้พวกหาตัวยาก! และฉันไม่ได้จะมาหานาย! ฉันมาหาลูกสาวของฉัน ไม่ใช่นายไอ้คนซื่อบื้อ!”
เย่ฮัวสูบบุหรี่เข้าไปอีกครั้งก่อนพูดด้วยเสียงเบาๆ “จำได้ไหมว่าคืนนั้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เธอเรียกฉันว่าอะไร?”
เธอเหลือบมองและคิดตาม คืนนั้น…
“เย่ฮัว! ฉันจะฆ่านาย! นายมันสารเลว!” คำพูดของเธอมันฟังดูดุร้ายกว่าเดิมอีก
เขายืนขึ้น สูบบุหรี่และเดินกลับไปยังชั้น 2 “เย็นไว้ เมื่อคิดออกแล้ว เมื่อนั้นจะปล่อยเธอไป”
“ไปตายไป!”
ได้ฟังถ้อยคำกร่นด่าของตงฮวงไป๋หลี่แล้ว เย่ฮัวก็รู้สึกว่าเธอนั้นคงต้องฝึกอะไรเพิ่มอีกเยอะ เพราะงั้นค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า
ก่อนจะเข้าไปยังออฟฟิศ ลองดูว่าประตูมันล็อคไหม และแน่นอนว่ามันล็อค
ชิงหยา เธอน่ะยังห่างไกลจากเทวทูตยิ่งนัก
แคร๊ค
ล็อคนั้นถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย เย่ฮัวผลักประตูเข้าไปด้านในและเห็นว่าชิงหยาขดตัวนอนอยู่บนโซฟา ไหล่เล็กๆนั้นดูสั่นเทา ท่าทางเหมือนจะร้องไห้เลย
ได้เห็นชิงหยาแบบนี้ หัวใจของเขาเองก็อยู่ไม่สุขเสียเท่าไหร่ เมื่อวานเธอยังอยู่ในอ้อมแขนเขาอยู่เลย แต่ตอนนี้…
เขาเดินไปยังโซฟาและเอ่ยขึ้นเบาๆ “ชิงหยา รู้นะว่าเศร้าแต่ทำแบบนี้ฉันเองก็ลำบากใจเหมือนกันนะ”
ชิงหยาไม่ได้พูดอะไร เธอหันหน้าหนีเย่ฮัว
“น่าๆ อย่าโกรธไปเลย กลับไปนอนดีๆที่ห้อง เธอจะนอนไม่หลับถ้าไม่มีอะไรกอดไม่ใช่เหรอ?” เขาลูบเบาๆไปที่ไหล่ของเธอที่โผล่ขึ้นมา
เธอยังคงไม่หันมาคุยดีๆแต่ก็มีเสียงกระแอมและพูดขึ้น “เย่ฮัว ขออะไรอย่างได้ไหม?”
เสียงนั้นฟังดูสุขใจดีจัง เพราะงั้นเขาจึงตอบอย่างว่องไว “ขอทำไมอย่างเดียว ว่ามาเป็นร้อยเลยก็ได้”
“เมื่อเด็กเกิดขึ้นมาแล้ว ฉันขอเจอกับเขาทุกๆเดือน สัญญาได้หรือเปล่า?” ชิงหยายังคงไม่หันกลับมามอง เธอดูเหมือนไม่อยากจะมองเย่ฮัวเสียเท่าไหร่ และน้ำเสียงของเธอดูอ่อนแอขึ้นไปอีก
เย่ฮัวที่นั่งเงียบฟังลุกขึ้นยืนช้าๆและเริ่มเปิดปากถาม “ชิงหยา เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย! อาหลี่ก็ลูกฉัน ส่วนตงฮวงไป๋หลี่ก็เป็นผู้หญิงของฉันคนหนึ่งเฉยๆ!”
“แบบนั้นแล้วก็หมายถึงครอบครัวนายกำลังกลับมารวมตัวกันไม่ใช่หรือไง? ฉันไม่อยู่รบกวนหรอกนะ”